[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 183 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
ระบบฐานข้อมูล


  

   เว็บบอร์ด >> สอบถาม พูดคุยเกี่ยวกับการเรียนการสอน >>
สิงห์บลูส์ ไม่ชนะมา 4 เกมติดทุกรายการ เกมนี้ส่ง เมสัน เมาท์ ปั้นเกมรุก  VIEW : 134    
โดย S

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 13
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 2
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 194.5.82.xxx

 
เมื่อ : อังคาร ที่ 21 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 เวลา 11:18:43   



"สิงห์บลูส์" เชลซี อาการในลีกเข้าขั้นหนักไม่มีชัย 4 นัดหมายติด ที่สำคัญแพ้บ๊วยอย่าง เซาธ์หมูแฮมป์ตัน ที่ได้ "เจมส์ วอร์ด-เพราส์" ปั่นฟรีคิกบุกนำชัย 1-0 ทำให้กลุ่มดังเมืองหลวงรั้งที่ 10 โดยความพ่ายแพ้นี้เป็นการพ่ายแพ้ "นักบุญ" แบบไป-กลับ หนแรกรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ปี 1993 อีกด้วย
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
บอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 18 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยี่ยมของ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน
"สิงห์บลูส์" ของ เอ็งรม เพียงพอตเตอร์ แพ้มา 4 เกมติดทุกรายการ เกมนี้ส่ง เมสัน เมาท์ ปั้นเกมรุกร่วมกับ โนนี่ มาดูเอเก้ แล้วก็ ยกเอา เฟลิกซ์ ด้านหน้าเป้าปรับมาใช้ ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า
ส่วนทางด้าน "นักบุญ" เพิ่งจะปลด เนธาน โจนส์ ออกมาจากตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอล แล้วให้ รูเบน เซลเลส ที่ทำหน้าคุมกลุ่มชั่วครั้งชั่วคราวแทน เกมนี้ปรับหลายตำแหน่งพอสมควร สองแนวรุกตัวความมุ่งหวังของกลุ่มใช้ ค้างมัลดีน ซูเลมาน่า รวมทั้ง พอล โอนัวยก
ประเดิมครึ่งแรกมาเพียงแค่ 3 นาที กลุ่มเยี่ยม เซาธ์หมูแฮมป์ตัน ได้ทักก่อนหรือหลัง ติดอยู่มัลดีน ซูเลมาน่า กดด้วยขวาในจุดโทษแต่ว่ายังไม่ผ่านมือ เกขว้าง อาร์รีซาบาลาก้า
นาที 13 "สิงห์บลูส์" เกือบจะได้ลุ้นขึ้นนำบ้าง โนนี่ มาดูเอเก้ แทรกแย่งบอลจากกึ่งกลางสนามก่อนใช้ความเร็วควบเข้าไปซัดเสาแรกแม้กระนั้นยังไปติดเซฟของ เกวิน บาซูนู ปัดออกไป
ต่อมาอีกนาที ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า ศูนย์หน้าไอวอรี่ วัวสต์ ได้วอลเลย์จากมุมแคบแต่ว่าบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย
เจ้าของบ้านเริ่มบดหนักขึ้น นาที 41 ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า กดด้วยขวานอกกรอบแม้กระนั้นบอลพุ่งไปตรงตัว เกวิน บาซูนู
ตอนทดเจ็บ นาที 45+1 แปลงเป็น "นักบุญ" ที่บุกมาขึ้นนำ เชลซี 1-0 จากจังหวะที่ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน ได้ฟรีคิกหน้ากรอบจุดโทษกว่า 25 หลา และก็เป็น เจมส์ วอร์ด-เพราส์ จอมฟรีคิกที่ปั่นผ่านกำแพงเข้าไปอย่างสุดงาม ให้ครึ่งแรกจบสิ้นลงด้วยสกอร์นี้
ตอนช่วงหลังนาทีที่ 56 มาเตโอ วัววาสิช วางบอลโด่งเข้าทาง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า พักอกพร้อมตวัดเร็วบอลออกข้างกรอบประตูทางซ้ายแบบได้ลุ้น
เจ้าของบ้านชวดนาทีทองนาที 68 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พนันบอลทะลุให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดลำพังเฉือนเรียดคืนไปที่สตาร์ผิวสีตะบันติดบล็อค เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนล์ส ที่ปักหลักอยู่ตามลำพังแบบนายด่านเพื่อนฝูงร่วมกลุ่มหลงทางแล้วด้วย
อีกสามนาที ไค ฮาแวร์ตซ์ แทรกชิงเหลี่ยมก่อนฉกบอลครอสห้อยมาเข้าหัว ราฮีม สเตอร์ลิ่ง คอยกระแทกผ่านตัว เกวิน บาซูนู แต่ทว่าดันพบ โรแม็ง แปร์โรด์ ถอยคุมเส้นประตูจัดการทิ้ง ถึงแม้ปีกสิงห์บลูส์ตามซ้ำบอลเหาะผ่านคาน
นักบุญเกือบจะเฮอีกนาที 73 ธีโอ วัลคอตต์ ลงสำรองรับบอลตบเรียดมาหน้าประตูทางด้านขวา อดัม อาร์มสตรอง ล้นชาร์จ เกขว้าง อาร์รีซาบาลาก้า ออกมาไวเอาตัวขวางทันตามกำหนด
สามนาทีหลังจากนั้นเกมหยุดชั่วคราว เซคู มาร่า กระโจนลอยตัวเตะหวังพังทลายสกอร์แต่ว่าเท้าไปโดนที่บริเวณใบหน้าของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จนถึงล้มกองนิ่งแน่ชั่วประเดี๋ยว กลุ่มหมอทั้งคู่กลุ่มกรูดูอาการ ก่อนแบกเปลวออกมาจากสนาม ส่งทาง เทร์โอ้อวดห์ ชาโลบาห์ คุมข้างหลังแทน
เจ้าถิ่นน่าตีคืนทดเจ็บนาที 90+6 ไค ฮาแวร์ตซ์ เกี่ยวบอลจากเท้าลำแข้งกลุ่มเยี่ยม บอลเกลือกมาที่ คอนอร์ กัลลาเกอร์ แตะต้องหลบเกมรับนักบุญยิงติดเซฟ เกวิน บาซูนู ยกมือปัดทิ้งรอดอันตราย จบเกม เชลซี แพ้ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน 0-1 ทำให้กลุ่มดังเมืองหลวงรั้งที่ 10 โดยความแพ้พ่ายนี้เป็นการปราชัย "นักบุญ" แบบไป-กลับ หนแรกรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ปี 1993 อีกด้วย
รายนามผู้เล่นทั้งคู่กลุ่ม
เชลซี (4-2-3-1) : เกขว้าง อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (เทร์โอ้อวดห์ ชาโลบาห์ น.84), ค้างลิดู คูลิบาลี่ (เวสลี่ย์ โฟฟาน่า น.46), เบอนัวต์ บาเดียชิล, เบน ชิลเวลล์ (คอนอร์ กัลลาเกอร์ น.84)- มาเตโอ วัววาสิช, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ - โนนี่ มาดูเอเก้ (ไม่ไคโล มูดริค น.64), ยกเอา เฟลิกซ์, เมสัน เมาท์ (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.64)- ดาวิด ดาโทร โฟฟาน่า (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.46)
เซาธ์หมูแฮมป์ตัน (3-5-2) : เกวิน บาซูนู - เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนล์ส (ยานหรูหรา น.90+5), ยาน เบดที่นาเร็ค, อาร์เมล เบลล่า-ค็อตชาป - สจวร์ต อาร์มสตรอง (ธีโอ วัลคอตต์ น.59), เจมส์ วอร์ด-เพราส์, โรมีโอ ลาเวีย (อิบราฮิม่า ดิยัลโล่ น.88), โมฮาเหม็ด เอลยูนูสซี่ (คาร์ลอส อัลติดอยู่ราซ น.87), โรแม็ง แปร์โรด์ - ติดอยู่มัลดีน ซูเลมาน่า (อดัม อาร์มสตรอง น.59), พอล โอนัวยก (เซคู มาร่า น.59)


สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet